น้องเจอพี่ช้าไป 40 ปี : เจค พอล พลาดของดี-ทีเด็ดอะไรจาก ไมค์ ไทสัน บ้าง ?

“วงการมวยสากลมันกำลังจะตายแล้ว มวยกรงกำลังได้รับความนิยมมากกว่า และตอนนี้มวยกรงกำลังไล่เตะตูดมวยสากลอย่างเมามันเลยล่ะผมจะบอกให้”

คนที่พูดประโยคนี้คือ ไมค์ ไทสัน เจ้าของสารพัดฉายาทั้งแชมป์เฮฟวี่เวตที่ดีที่สุดในโลก, มฤตยูดำ หรือ ชายผู้เลวระยำที่สุดในโลก กล่าวด้วยตัวเองในวัย 58 ปี และเหตุผลนี้ทำให้เขาต้องแบกสังขารในวัยใกล้เกษียณมาต่อยกับ ยูทูเบอร์รุ่นลูกอย่าง เจค พอล



ในขณะที่แฟนคลับของ เจค พอล กำลังคิดว่าตาแก่ที่ชื่อว่า ไทสัน คงโดนไอดอลของเขายำจนเละเทะ … คอมวยรุ่นเก่าคงมองตรงกันข้าม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไฟต์นี้ย้อนกลับไปชกสัก 30 ปีที่แล้ว แฟนมวยรุ่นใหม่คงนึกถึงตอนจบของไฟต์นี้ไม่ออกแน่นอน

เจค พอล พลาดชิมของดีอะไรจาก ไทสัน ไปบ้าง … สิ่งเหล่านี้จะพาคุณย้อนกลับไปในยุคที่ ไทสัน กำลังพีก ๆ ?

เจ้าของคำเตือน…“ดูไทสันชก ห้ามเข้าห้องน้ำ”



เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริง ไมค์ ไทสัน คือนักชกแชมป์โลกเฮฟวี่เวตที่คว้าเข็มขัดที่ว่าการันตีความเป็น “โคตรมวย” ได้ตั้งแต่อายุ 20 ปี ซึ่งอันที่จริงแล้วเขาอาจจะคว้าแชมป์ได้ตั้งแต่อายุก่อนนั้นด้วยซ้ำ หากกฎหมายอนุญาต

หากจะบอกให้เข้าใจง่าย ๆ คือตัวของเขาพร้อมสำหรับการชกอาชีพมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่โดนกฎเรื่องของอายุกดไว้เท่านั้น … ไทสัน อยากขึ้นเวทีมากตั้งแต่ยังเด็ก ถึงขนาดที่ว่าหลังจากเทิร์นโปรตอนอายุ 18 ปี เขาก็ยัดเงินให้กับโปรโมเตอร์ถึง 450 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขอลัดคิวขึ้นชก



นั่นคือสิ่งที่เขาเรียกว่า “การลงทุน” … โดยเขาเผยว่า “ผมแทบไม่ได้ค่าตัวในการชกไฟต์นั้นหรือในช่วงเปิดตัวเลย ในไฟต์แรกผมถึงขั้นต้องเสียเงินให้กับโปรโมเตอร์ 450 ดอลลาร์ และได้การันตีค่าตัวกลับแค่ 500 ดอลลาร์เท่านั้น 50 ดอลลาร์คือเงินที่ผมต้องหารกับพี่เลี้ยงถ้าผมไม่ชนะ”

ที่บอกว่ามันเป็นการลงทุนเพราะไฟต์นั้นโลกได้พบนักมวยอายุน้อยที่ชกได้ดุดันที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ คู่ชกของ ไทสัน คือ เฮ็คเตอร์ เมร์เซเดส และหลังระฆังยกที่ 1 ดัง ไทสัน ใช้เวลา 10 วินาทีเท่านั้นในการปิดฉากมันอย่างรวดเร็ว

เดินเข้าไปกระหน่ำหมัดชุดแบบนับไม่ถูกว่าซ้ายหรือขวา ชกไปทั้งหมดกี่ครั้ง แต่ที่รู้ ๆ คือ ไทสัน น็อคคู่แข่งด้วยเวลาแค่ 10 วินาที … ชื่อของเขาดังกระฉ่อน และนับตั้งแต่นั้นเขาเปิดไฟต์ด้วยวิธีการพุ่งเข้าใส่เหมือนกับวัวกระทิงทุกครั้ง



อย่าว่าแต่ 10 วินาทีเลย … แค่ 3 วินาทีน็อคได้ ไทสัน ก็เคยมาแล้ว นั่นจึงเป็นสาเหตุที่มีคำพูดว่าหาก ไมค์ ไทสัน ขึ้นชก “อย่าเผลอเข้าห้องน้ำก่อนระฆังดัง เพราะไม่อย่างนั้นเมื่อคุณกลับมาไฟต์ของเขามีโอกาสที่จะจบไปแล้วสูงมาก” … บางไฟต์ถึงกับถูกเรียกว่า “นี่ไม่ใช่การชกมวย แต่มันคือการต่อยเอ็นเตอร์เทนคนดูมากกว่า”

นั่นแหละเป็นสิ่งที่ ไทสัน ทำเมื่อ 40 ปีก่อน ก่อนที่จะขึ้นชกกับ เจค พอล ในไฟต์นี้เป็นมาตลอด น่าเสียดายที่เขาไม่ได้เร็ว แข็งแรง และดุดันแบบนั้นแล้ว เพียงแต่แฟนบอยของ ไทสัน ยังคงเชื่อเหลือเกินว่าอย่างน้อย ๆ ให้เขาเผยลีลาของยุคร่างทองออกมาให้ได้สัก 25% ก็เพียงพอแล้วที่จะเอาชนะในมวยขายตั๋วไฟต์นี้ ต่อให้ เจค พอล จะฝึกมวยมาจริงจังขนาดไหน แต่ ไทสัน ในช่วงพีกคือสิ่งที่ยิ่งกว่านักมวย แต่คือเครื่องจักรสังหารตัวจริงเสียงจริงแบบที่ใครก็ต้องไร้ข้อโต้แย้ง

จ้องตา ก็ชนะแล้ว

อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ไทสัน คือเครื่องจักรสังหาร นั้นไม่ใช่เรื่องเกินจริง เพราะว่ากันว่าจิตสังหารของเขาไม่ได้แสดงออกมาในตอนชกกันเท่านั้น แต่มันแสดงออกตั้งแต่การจ้องตากันแล้ว



ดวงตาที่อาฆาตมาดร้าย เกิดขึ้นจากช่วงวัยเด็กที่ใช้ชีวิตอยู่ในแก๊ง และเป็นเด็กที่ขาดการสั่งสอนดูแลจนใช้ความรุนแรงเป็นทางออกตลอด โชคดีที่ กัส ดามาโต้ ครูมวยผู้ล่วงลับของเขาเจอตัวเขาและเอาปลุกปั้นจนเติบโตมาอย่างถูกทาง เพียงแต่สิ่งที่ กัส เปลี่ยน ไทสัน ไม่ได้คือสายตาอาฆาตดังที่กล่าวไป

ไทสัน บอกว่าลักษณะการมองคู่ต่อสู้ของเขาไม่ใช่การข่มขวัญ ดูถูก หรือเหยียดหยาม มันไม่ใช่แท็คติก แต่มันคือสัญชาตญาณ ตั้งแต่เขาจำความได้จากการต่อสู้ข้างถนนในวัยเยาว์ ภายใต้การฝึกฝนและผลักดันของ กัส ดามาโต … ช่วงวัยรุ่นที่เริ่มหัดชกมวยหรือมีเรื่องข้างถนน ไทสัน บอกว่า ถ้าเขาได้จ้องใครเข้าแล้ว เขาจะพยายามเป็นผู้ชนะเหนือคน ๆ นั้นให้ได้ และเขาจะไม่หยุดปล่อยหมัดจนความตั้งใจสำเร็จ



“ก่อนชกทุกครั้ง ผมเข้านอนและฝันถึงการเอาชนะเสมอ เมื่ออยู่บนเวทีผมคือพระเจ้าที่ไม่มีใครเทียบได้ และไม่มีทางที่ผมจะแพ้ให้กับใครสักคน”

“หากคุณสังเกตเวลาที่ผมเดินบนเวทีก่อนระฆังดัง ผมจะมองไปที่คู่ต่อสู้โดยไม่ละสายตาเลยสักครั้ง ผมเห็นหน้าของพวกเขาและอดทนรอไม่ไหวที่จะเอาหมัดของผมไปประทับตรงนั้น ผมจะมองพวกเขาจนทะลุ แม้พวกเขาจะพยายามหลบสายตาผม และถ้าใครบางคนพยายามมองมาที่ตาผมและใช้สายตาข่มขู่ผมกลับ ผมจะดีใจมากเพราะผมจะได้ทำลายจิตวิญญาณนักสู้ในดวงตาคู่นั้นให้มอดไหม้ลงในทันที” ไมค์ ไทสัน กล่าวใน Podcast ของเขาว่าด้วยเรื่อง “การฆ่าด้วยสายตา”



แม้ว่าปัจจุบันสายตาแห่งความอาฆาตนี้จะยังคงอยู่ แต่ก็นั่นแหละ …. ไทสัน ในวัย 58 ปีผ่านโลกมามาก เห็นโลกมาเยอะ ความดุดันความคะนองก็ลดน้อยถอยไปตามช่วงเวลา แม้จะยังพอหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็น่าเสียดายแทน เจค พอล ที่พลาดในการจ้องตาที่ถูกเปรียบกับดวงตาแห่งยมทูตแบบที่มีแต่คนที่ได้ดวลกับไทสัน เท่านั้นจึงจะเข้าใจว่าสายตานั้นให้ความรู้สึกแบบไหนกันแน่

ท่าไม้ตาย และฮุกซ้ายที่แรงที่สุดในโลก

ตำนานเรื่องเล่าของ ไทสัน ถูกบันทึกไว้มากมาย ว่ากันว่าในไฟต์ที่ 2 ของเขา อาวุธทำลายล้างจากหมัดข้างซ้ายของเขาก็ได้ถือกำเนิดให้โลกได้เห็นมันกับตาเป็นครั้งแรก “ฮุกซ้ายในตำนาน” เอาชนะ น็อค เทรนท์ ซิงเกิลตัน ไปในยกแรก



จากนั้นในไฟต์ที่ 3 กับ ดอน ฮัลพิน ท่าไม้ตายที่เขาใช้หากินตลอดชีวิตอย่างท่าที่เรียกว่า “Peek a Boo” ซึ่งท่านี้จะถูกงัดมาใช้ตอนเจอคนเก่ง ๆ ที่เขาต้องการตั้งรับและสวนกลับ ใช้เกมรับผสมเกมบุก ลักษณะคือใช้การเอี้ยวตัวหลบหมัดคู่ต่อสู้ และใช้ประโยชน์จากการเอี้ยวตัวนั้นเสริมแรงใส่หมัดของตัวเองแทนที่จะหลบเฉย ๆ กลายเป็นการเหวี่ยงหมัดด้วยองศาที่กว้างกว่าเดิม ซึ่งท่านี้กลายเป็นซิกเนเจอร์ของ ไทสัน ที่โลกจดจำได้มากที่สุดเลยก็ว่าได้

ไทสัน ปล่อยของและโชว์ความอึดในแบบเหนือมนุษย์ปี 1985 เขาขึ้นชกทั้งหมด 15 ไฟต์ ขณะที่ปี 1986 เขาขึ้นชกอีก 11 ไฟต์ เรียกได้ว่านักมวยยุคปัจจุบันเทียบไม่ติดเลยทีเดียว ค่าเฉลี่ยการชกมากกว่า 1 เดือนต่อ 1 ไฟต์ด้วยซ้ำ



และในไฟต์ที่ 11 ของปี 1986 เครื่องจักรสังหารอย่างเขาก็คว้าแชมป์โลกมาครองเป็นครั้งแรก ในไฟต์นั้นเขาจะต้องเจอกับ เทรเวอร์ เบอร์บิก เเชมป์โลกที่มีฝีไม้ลายมือดีที่สุดเท่าที่ ไทสัน เคยเจอมาในเวลานั้น … และ ไทสัน ส่ง เบอร์บิก ในศึกที่เรียกว่า “วันพิพากษา” ลงไปกองกับพื้นถึง 3 นับ จนชนะ และคว้าแชมป์ไปได้ในท้ายที่สุด

“ผมมาที่นี่และมั่นใจมากว่าผมจะไม่ยอมลงจากเวทีหากปราศจากแชมป์โลก … ทุกครั้งที่ผมเขวี้ยงหวัด จงรับรู้เอาไว้ว่ามันอันตรายและแม่นยำมาก นาทีนี้ผมคือคนที่เก่งที่สุดในโลก และไม่มีใครที่จะเอาชนะผมได้” ไทสัน กล่าวหลังรับเข็มขัดเเชมป์อย่างยิ่งใหญ่ และจากนั้นเรื่องราวต่าง ๆ มากมายก็เกิดขึ้นกับเขา และทำให้เขาเป็นขวัญใจคอมวยสากลตลอดกาลจนถึงวันนี้



ถือว่าเป็นเกียรติกับ เจค พอล มากที่นักชกระดับปรากฎการณ์ของโลกคนนี้ ยังคงรักษาสภาพนักมวยเก่าอย่างดีที่สุดแม้ในวัย 58 ปี …

ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน โลกยังคงอยากเห็นไฟต์ของ ไมค์ ไทสัน เสมอ … วงการมวยสากลอาจจะตายไปแล้วอย่างที่เเขาว่า แต่ชื่อของเขายังคงเป็นอมตะและจะถูกพูดถึงไปตลอดกาล และ เจค พอล คือคนล่าสุดที่จะได้ลองลิ้มชิมรสมัน แม้อาจจะช้าไป 30-40 ปีก็ตาม

แอดมิน ปอนด์ต่อปอนด์
แอดมิน ปอนด์ต่อปอนด์
ท้าชนทุกรุ่น...ปอนด์ต่อปอนด์

ข่าวล่าสุด

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง