ศึก ONE ลุมพินี 83 วันศุกร์ที่ 18 ต.ค.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) อาจไม่ใช่รายการใหญ่ที่มีนักมวยระดับแนวหน้าขึ้นชก แต่ในรายการเต็มไปด้วยนักมวยประเภท “สีสัน” ชวนติดตามมากมาย
หนึ่งในนั้นคือการแข่งขันคู่ที่ 7 ระหว่าง เหิร ลูกสวน พบกับ เพชรทองเก้า พชรยิม ในกติกามวยไทย รุ่นอะตอมเวต (115 ปอนด์) ถือเป็นคู่มวยที่น่าติดตามไม่แพ้คู่สำคัญ เพราะทั้งคู่ต่างเคยได้ชื่อว่าเป็นนักมวยเด็กระดับประเทศ ปัจจุบันเป็นมวยพิกัด 112-115 ปอนด์ ที่พร้อมจะก้าวขึ้นมายืนแถวหน้า หากว่าสามารถคว้าชัยชนะในไฟต์สำคัญได้สำเร็จ
โดยเฉพาะนักชกวัย 21 ปี จาก อ.บ่อไร่ จ.ตราด สมัยชกเวทีภูธร เขาคือ เหิรเล็ก ศักดิ์อรัญ ดีกรีอดีตแชมป์ภาคกลางและภาคตะวันออก รุ่น 29 กิโลกรัม ผู้เกิดจุดหักเหในชีวิต เมื่อเข้าไปพัวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต้องเข้าไปใช้ชีวิตหลังกำแพงเรือนจำ จนชีวิตพ่อค้ากำปั้นที่กำลังรุ่งโรจน์ต้องสะดุดไปพักหนึ่ง
เรื่องราวเกิดขึ้น เมื่อ 3 ปีก่อน เหิร หรือ นายหัชธชัย วัลลา (อ๊อฟ) ซึ่งเวลานั้นใช้ชื่อ เหิรเล็ก ศักดิ์อรัญ เป็นดาวรุ่งมวยเด็กฉายา “แข้งซ้ายมหาโหด” กำลังโชว์ฟอร์มเป็นที่จับตามอง เนื่องจากเป็นมวยอาวุธหนักแรง แต่ต้องมาหยุดชกเพราะสถานการณ์ โควิด-19
เวลานั้น เหิร เพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมการศึกษาปีที่ 6 อยากหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว เขากับเพื่อน ๆ รวม 5 คน จึงถูกชักชวนไปทำงานเว็บพนันออนไลน์ในกัมพูชา ให้กับกลุ่มชาวจีน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2564 โดยทางบ้านไม่มีใครรู้ว่าทั้ง 5 คนไปทำงานดังกล่าว คิดว่าไปหาทำงานในประเทศไทยตามปกติ
เมื่อไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง 5 คนถูกจับคู่หรือไม่ก็จับแยกให้ทำงานคนละที่ ถูกบังคับให้ทำยอดรายได้ให้เว็บอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ล้านบาท ถ้าทำยอดไม่ถึงจะถูกเฆี่ยนตี ถูกช็อตด้วยไฟฟ้า และถูกทารุณด้วยวิธีต่าง ๆ นานา หนักสุดถึงขั้นถูกขู่ฆ่า จนครอบครัวต้องร้องขอความช่วยเหลือจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทั่งสามารถเดินทางกลับประเทศไทยอย่างปลอดภัย แต่ก็ต้องแลกมาด้วย เอกสาร สมุดบัญชี และบัตรประชาชน ที่ถูกยึดไป
เหมือนชีวิตกำลังจะกลับมาเป็นปกติ เหิรเล็ก ย้ายมาซ้อมมวยที่ค่ายลูกสวน ย่านฝั่งธน แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น เหิร ลูกสวน มีรายการชกต่อเนื่อง ชัยชนะส่วนใหญ่เป็นการชนะแบบไม่ครบยก อาทิเช่น ชนะน็อก เพชรแสนชัย จิตรเมืองนนท์ ยก 2, ชนะน็อก ยูริ สิงห์คลองสี่ ยก 5, ชนะน็อก เพชรดำ จิตรศาลายา ยก 3, ชนะน็อก จิ้งเหลนไฟ เอกเมืองนนท์ ยก 4, ชนะน็อก คิเดโอะ ศิริลักษณ์มวยไทย ยก 3, ชนะน็อก ยอดแดนไตร รองอ๊อดหนองไม้แดง ยก 2
ขณะที่กำลังโชว์ฟอร์มอย่างหล่ออยู่นั้น เส้นทางค้ากำปั้นต้องมาสะดุดอีกครั้ง เมื่อเขาถูกจับในข้อหาเปิดบัญชีม้า จากการที่เอกสารส่วนตัวโดนยึดไปเมื่อถูกหลอกไปเป็นคอลเซนเตอร์ แม้ว่าจะพยายามต่อสู้ในชั้นกฏหมาย แต่ด้วยหลักฐานที่ยากจะปฏิเสธ จึงต้องรับโทษตามที่ศาลตัดสิน กระทั่งได้รับอิสระเมื่อ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา
เหิร เขียนจดหมายจากหลังกำแพงเรือนจำบอกว่า เขาจะกลับมาแก้ไขชีวิตที่ผิดพลาด และตั้งใจชกมวยหาเงินเลี้ยงย่าและครอบครัว
แม้จะถูกตั้งฉายาให้ว่า “ซ้ายคอลเซ็นเตอร์” ซึ่งฟังแล้วอดหวนคิดถึงเรื่องราวที่อยากลืม แต่เขาจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส จะชกสร้างชื่อให้ฉายา ซ้ายคอลเซ็นเตอร์ เป็นที่รู้จักของแฟนมวย ในฐานะ “นักมวยขวัญใจชาวไทย” คนใหม่ ให้จงได้
