เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม เลิศล้ำเมืองกีฬา
ถ้อยคำสุดท้ายของคำขวัญจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ว่า เลิศล้ำเมืองกีฬา คุณอ่านแล้วนึกถึงอะไร
สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด? โมโตจีพี ? หรือหลายคนอาจจะบอกว่า ไม่ต้องถึงขั้นนักกีฬาก็ได้ เมืองนี้มี Lisa คนเดียวก็กินขาดแล้ว แต่เชื่อเถอะว่า ลิซ่าเองก็มีความเกี่ยวดองหนองยุ่งกับวงการกีฬาอยู่มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทั้งการที่เธอมีญาติห่างๆอย่าง พญาหงส์ บัญชาเมฆ หรือ จันกานต์ มโนบาล นักมวยหญิงทีมชาติไทยและแชมป์เวทีราชดำเนิน พิกัด 105 ปอนด์ ทั้งการที่เธอเป็นคนไทยคนแรกที่ได้โบกธงตราหมากรุกในการแข่งขันรถสูตร 1 ชิงแชมป์โลกหรือ F1

ถ้าคุณคิดว่านี่เพียงพอต่อการตอกย้ำคำว่า เลิศล้ำเมืองกีฬาแล้วล่ะก็ เราบอกเลยว่าคุณลืมเธอคนนี้ไป หรือ หลายคน อาจจะยังไม่รู้จักเธอเสียด้วยซ้ำ
สุภิสรา บุญหลัก หรือ ‘โลมา ลูกบุญมี’ คนไทยคนแรกและหนึ่งเดียวบนเวทีศิลปะการต่อสู้ระดับโลก UFC!!
[ชกกับใครก็ได้ ที่ไม่ใช่ น้องร่า ลูกบุญมี]

โลมา มีชื่อเล่นแต่กำเนิดว่าน้องร่า ที่ย่อมาจากอากีร่า ยี่ห้อรถมอเตอร์ไซค์ในยุคก่อน เพราะตอนที่คุณแม่เธอกำลังจะคลอด ที่บ้านมีมอเตอร์ไซค์อากีร่าแค่คันเดียว หอบหิ้วกันไปจนถึงโรงหมอได้ทันเวลา
เธอเกิดมาในชนบทของจังหวัดบุรีรัมย์ ตัวบ้านที่พักอาศัยแทบจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับนาข้าว เสียงวัวควายร้องระงมทุกค่ำเช้า เช่นเดียวกับเสียงคุณพ่อและนักมวยในค่ายลูกบุญมีร้องดังเอิ้วอ้าว!ยามเตะต่อยเข้ากระสอบทราย
เด็กหญิงอากีร่า เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่าพ่อของเธอคือฮีโร่ ฮีโร่ในความเข้าใจเธอ ณ เวลานั้นคือไม่ต้องเป็นซูเปอร์แมน หรือ มิตร ชัยบัญชาที่มีหน้ากาก ติดปีกบินได้ แต่เป็นฮีโร่ที่หาเลี้ยงเธอและคนในครอบครัวด้วยลำแข้ง

‘การเป็นฮีโร่แบบพ่อ’ จึงเป็นอาชีพในฝันของเธอมาโดยตลอด ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในทุกๆปีของการเติบโต น้องร่าจะวิ่งตามพ่อไปทุกที่เวลาพานักมวยไปชกตามงานวัด
“หนูขอแค่ได้ไป มีครั้งหนึ่งหนูคิดว่าตัวหนูพร้อมแล้ว หนูอยากต่อยมวยบ้าง เลยขอขึ้นไปเปรียบมวยกับเด็กผู้ชาย แต่พ่อไม่ให้ พอนักมวยในค่ายต่อยเสร็จเขาก็จะพากลับเลย หนูไม่ยอม หนูร้องไห้อยู่ข้างเวทีแล้วบอกว่าถ้าไม่ชกหนูจะไม่กลับบ้าน”
นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเป็นนักมวยอาชีพของเด็กหญิงอากีร่า ที่ห้าวเป้งตั้งแต่วัย 7 ขวบ เธอบอกว่าตอนนั้นไม่กลัวเลยว่าจะต้องเจอกับผู้หญิงหรือผู้ชาย จะเล็กหรือใหญ่เธอก็ไม่เกี่ยง ขอแค่ได้ชกมวย เธอก็จะมีความสุข ชกชนะได้เงินกลับบ้านเพียงหลักร้อย แต่มันทำให้เธอใจฟูฟ่องยิ้มป่องไปได้หลายวัน

เธอเริ่มใช้ชื่อในวงการว่า น้องร่า ลูกบุญมี ตระเวนชกหมดทั้งเวทีภูธร เวทีระดับจังหวัดและระดับภาค
แต่ความเป็นจริงของโลกนี้มันโหดร้าย เหมือนสมัยคุณเป็นนักเรียนนั่นแหละ ถ้าคุณเรียนเก่งมากๆ แล้วเป็นคนตรงฉิน ไม่อยากให้เพื่อนลอกข้อสอบเพราะกลัวเพื่อนจะยิ่งไม่ประสบความสำเร็จ คุณก็จะกลายเป็นไอ้เด็กเนิร์ดที่ไม่มีเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆเฮฮาสังสรรค์ด้วย
ร่า ลูกบุญมีก็เช่นกัน เธอต่อยชนะผู้ชายมาแล้ว ฉะนั้นการเจอกับนักมวยหญิงด้วยกันมันไม่ใช่เรื่องยากเลย ยิ่งเธอมีความมุ่งมั่นกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน มันก็เลยทำให้ไม่มีนักมวยหญิงคนไหนอยากเจอกับเธอ

จากนักมวยดังแห่งภาคอีสาน น้องร่าได้รับโอกาสจากค่ายมวยแห่งหนึ่งในพัทยา ดึงเธอไปขัดเกลาแต่งเติมวิชา และเปลี่ยนชื่อจากน้องร่า เป็นโลมา ให้เข้ากับบรรยากาศที่นั่นด้วย แต่เหตุผลสำคัญคือหากเธอยังใช้ชื่อว่าน้องร่า ลูกบุญมี เธอคงจะต้องต่อยกับลมฟ้าอากาศ เพราะไม่มีนักมวยหญิงคนไหนในเวลานั้น อยากเจอกับเด็กคนนี้เลย
[โลมาว่ายน้ำจากจอมเทียนสู่สังเวียนระดับโลก]
โลมา ลูกบุญมี ผ่านเวทีการต่อสู้มาอย่างโชกโชน ราวๆ200ไฟต์ และคว้าเข็มขัดแชมป์มวยไทยมาถึง 9 เส้น

ที่สำคัญเธอยังเคยเป็นตัวแทนนักมวยทีมชาติไทยไปแข่งขันรายการมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก 2016 ที่จัดขึ้น ณ เยินเชอปิง ประเทศสวีเดน ซึ่งเธอเป็นฝ่ายชนะคะแนนวารา เนโกรดินา จากประเทศรัสเซีย ก่อนจบด้วยการคว้าเหรียญเงิน และในปีต่อมาเธอแก้มือสำเร็จด้วยการคว้าเหรียญทองมาครอง

น่าเสียดายในวันที่โลมาทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด รายการมวยสำหรับผู้หญิงในประเทศไทยนั้นน้อยเหลือเกิน เมื่อเทียบกับมวยไทยของผู้ชายที่มีแข่งกันแทบทุกวันและทุกรุ่น
เมื่อหนทางที่จะได้ขึ้นไปแข่งมันน้อยนิด ความทดท้อใจก็เกิดขึ้น แต่ชะตาฟ้าลิขิตให้เธอได้เจอกับผู้ใหญ่ใจดี แนะนำเธอเข้าสู่วงการ MMA ซึ่งมันเป็นเหมือนการต่อขบวนรถไฟเที่ยวใหม่ที่เธอเองก็ไม่คาดคิดถึงจุดหมายปลายทางมาก่อนเช่นกัน

“ตอนนั้นหนูไม่รู้จักเลยค่ะ อะไร MMA อะไร UFC พ่อหนูยังพูดไม่ถูกเลยทุกวันนี้ UBC , UFO คือมันใหม่มากสำหรับเรา” อากีร่า ให้สัมภาษณ์กับ UFC Thailand
“ตอนนั้นที่ไปฝึกที่แคนาดาเราไม่มีอะไรเลยนอกจากมวยไทย หนูต้องฝึกเพิ่มทั้ง ยิวยิตสู, มวยปล้ำ, มวยชก, ฝึกเทคนิคการเอาตัวรอด, เวททรินนิ่งต่างๆ เหนื่อยมากค่ะ แต่พอรู้ว่ามวยไทยกับเรามันไม่สามารถสร้างรายได้ได้แล้ว และเราเห็นว่า MMA มีโอกาสมากกว่าเราก็อยากทำให้ได้”
โลมา เริ่มจากการต่อสู้ในรายการ Invicta ซึ่งเป็นการแข่งขัน MMA ของผู้หญิงโดยเฉพาะและมันเป็นเหมือนสังเวียนที่แมวมองจาก UFC จะแวะเวียนมาหาเพชรเม็ดงามไปประดับตกแต่งบนOctagonเพิ่ม

เธอเปิดตัวอย่างแจ่มเอาชนะคู่แข่งได้ทั้ง 2 ไฟต์แรก แม้ทักษะการต่อสู้ที่มีทั้งการยืน,การล็อกจับปล้ำเทคดาวน์ต่างๆ มันจะใหม่กับเธอเหลือเกิน แต่สาวจากบุรีรัมย์พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทุกครั้งเมื่อเธอมุ่งมั่นเธอจะทำมันสำเร็จ!
[ใจสลายวันดอกฝ้ายบาน เมื่อผู้จัดการบอกว่าไม่ต้องชกแล้ว!?]
โลมา สร้างสถิติ ชนะ 3 แพ้ 1 ในรายการ Invicta แต่แล้วจู่ๆวันหนึ่งของเดือนกันยายนปี 2019 พี่มะลิผู้จัดการส่วนตัวของเธอ เดินมาบอกว่า
“ไม่ต้องชกแล้วนะ เก็บกระเป๋าเลย”
วินาทีนั้นเป็นใครก็ใจสลาย เธอมีคำถามในหัวเต็มไปหมดว่าตัวเองทำไม่ดีพอตรงไหนหรืออย่างไร?

“หนูกำลังจะร้องไห้แล้ว แล้วพี่มะลิก็พูดต่ออีกว่า ไม่ต้องชกIcvictaแล้วไปชก UFC เลย”
“ตอนนั้นหนูก็ยังแบบห๊ะ ไม่รู้ตัวนะ แล้วพอคิดได้ก็แบบโอ้โหร้องไห้เลย UFC มันคือเวทีที่ใหญ่ที่สุดของโลกเลยนะ”
จากน้องร่า สู่โลมา ลูกบุญมีบนเวทีระดับโลก เธอยังคงสวมกางเกงมวยไทยขึ้นชั่งน้ำหนัก – แถลงข่าว พร้อมกับธงชาติไทยผืนใหญ่ทุกครั้งที่ปรากฎตัวสู่สายตาคนทั่งโลก

ไฟต์แรกของโลมาในUFC เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม เธอเจอกับ อเล็กซานดรา อัลบู และเอาชนะไปด้วยคะแนนแบบไม่เอกฉันท์ แต่ทุกคนจดจำเธอได้จากการที่เธอเสียเปรียบอัลบูอยู่มาก ทั้งในเรื่องของกล้ามเนื้อ ส่วนสูง และประสบการณ์
แต่ว่าในค่ำคืนนั้น คนทั้งโลกได้เห็นเด็กสาวผมสั้นมัดจุกเอาธงชาติไทยพาดไว้ที่ไหล่ ชูมือร้องไห้อยู่บนเวทีด้วยความอัดอั้นตันใจ

“มันเหนื่อยและกดดันมากเลยค่ะ หนูถามพี่มะลิว่ากลับบ้านทันไหม มันดูเหมือนไม่ใช่ที่ของเราเลยในวันนั้น แต่หนูก็ดีใจที่ทำสำเร็จ”
นั่นคือไฟที่ต่อยอดความเชื่อมั่นของโลมา ลูกบุญมี หลังจากวันนั้น โลมา ลูกบุญมีก็สร้างสถิติของตัวเองบนหน้าเว็บไซต์ UFC ได้อีกเรื่อยๆ ด้วยการชนะคะแนน 6 และ ชนะน็อค 1 ไฟต์
ไฟต์ล่าสุดของโลมา ลูกบุญมี คือการเอาชนะบรูน่า บราซิล เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา แต่หลังจากชนะในวันนั้นเธอต้องกลับมาไทยเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่มือ

ทำให้เธอห่างหายไปจากสังเวียนพักใหญ่ แต่ ณ เวลานี้ โลมา ที่กำลังเก็บตัวซ้อมอยู่ที่แคนาดา เธอพร้อมเต็มสูบแล้วที่จะกลับมาสร้างชื่อให้กับประเทศไทยและคนบุรีรัมย์อีกครั้ง
ขอแค่ทุกคนไม่ลืมชื่อเธอ หญิงแกร่งจากไทยหนึ่งเดียวบนเวทีระดับโลกคนนี้ ‘สุภิรสา คนหลัก’ โลมา ลูกบุญมี !